ค้นหาบล็อกนี้

This is default featured slide 1 title

สุขภาพหมายถึงระดับของประสิทธิภาพเชิงการทำงานหรือเชิงเมตาบอลิกของสิ่งมีชีวิตสำหรับมนุษย์นั้นโดยทั่วไปและตามนิยามขององค์การอนามัยโลกหมายถึงสภาวะอันสมบูรณ์ของภาวะทางกาย จิต จิตวิญญาณ และสังคมของบุคคล.

This is default featured slide 2 title

อันมิได้หมายถึงความปราศจากโรคหรือความบกพร่องเพียงอย่างเดียว แม้นิยามนี้จะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะในประเด็นของความไม่มีตัวชี้วัดที่ชัดเจนหรือประเด็นปัญญาที่ตามมาจากการใช้คำว่า "สมบูรณ์" ก็ตาม.

This is default featured slide 3 title

แต่ก็ยังเป็นนิยามที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดอยู่ ระบบจำแนกประเภทต่างๆ เช่น Family of International Classifications ขององค์การอนามัยโลก.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 5 title

ซึ่งประกอบด้วย International Classification of Functioning, Disability and Health (ICF) และ International Classification of Diseases (ICD) เป็นเกณฑ์ที่เป็นที่นิยมใช้มากที่สุดในการนิยามและวัดองค์ประกอบของสุขภาพ.

วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

โปรแกรมที่จะช่วยให้คุณนั่งทำงานได้นานขึ้นโดยไม่ปวดตา


สำหรับ คนที่ทำงาน ที่ต้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ อาการป่วยที่เกิดปัญหากับดวงตา และ ระบบการมองเห็น เช่น ปวดตา ปวดกระบอกตา ปวดกล้ามเนื้อหา เยื่อหุ้มตาเสื่อม ความเมื่อยล้าของสายตา สายตาสั้น อาการเหล่านี้ ล้วนเกิดขึ้นมาจากสาเหตุเรื่อง ความสว่างของหน้าจอ แทบทั้งสิ้นเพราะโดยปกติแล้วนั้นในธรรมชาติแสงสว่างจะไม่คงที่ตลอดเวลาครับ ดังนั้นควรมีการปรับแสงสว่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์ ให้เพิ่มหรือลดตามช่วงเวลาในการทำงานของเรา หากคุณทำงานยาวจนลืมเวลา  อาจทำให้แสงหน้าจอนั้นสว่างมากเกินความจำเป็น

แต่การที่จะมานั่ง ปรับแสงอยู่ตลอดเวลา มันลำบาก บางทีเราก็ลืมไป แต่ไม่ต้องห่วงครับ เกรินมาซะขนาดนี้ผมมี โปรแกรมช่วยปรับแสงหน้าจอแบบอัตโนมัิตมาให้แน่นอนครับ โปรแกรมชื่อ f.lux โปรแกรมจะปรับแสง และ สีของหน้าจอตามเวลาจริงเพื่อให้เแสงของหน้าจอนั้นมีความเหมาะกับผู้ใช้นใน เวลานั้นๆ ปรับแสงของหน้าจออัตโนมัติตามเวลาจริงๆของพื้นที่ ของเรา แสงและสีของจอภาพนั้นเหมาะสมกับเวลานั้นๆ เพื่อเป็นการถนอนสายตาและไม่ให้สายตาของเราปรับสภาพกับแสงจอมากเกินไป โปรแกรมนี้จะคอยปรับแสงของหน้าจอลงเรื่อยๆ เมื่อตกเย็น (6 โมงเย็น) โปรแกรมก็จะปรับแสงของหน้าจอให้อยู่ในระดับต่ำสุดที่ผู้ใช้ตั้งค่าเอาไว้

การ ตั้งค่าโปรแกรม ก็แค่เรากำหนดแสงของหน้าจอในเวลากลางวัน และ กลางคืน จากนั้น ใส่ตำแหน่งของคุณลงไป (คือระบุพื้นที่ของเรา ใส่ Bangkok) โปรแกรมก็จะเริ่มทำงานโดยทันที โปรแกรม F.lux ทำงานได้ทั่งบน Windows Mac, iPhone, และ Linux ดาวน์โหลดได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ แค่มีโปรแกรมนี้ติดตั้งไว้ เราก็นั่งทำงานได้อย่างสบายตาแล้วครับ


วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556

การท่องเที่ยวทางน้ำ

 

การท่องเที่ยวทางน้ำหรือการเดินทางทางน้ำเป็นเส้นทางหนึ่งที่คนไทยรู้จักกันมาแต่ช้านาน สมัยก่อนทั้งเจ้าขุนมูลนายหรือแม้แต่กษัตริย์ยังชื่นชอบการเดินทางหรือท่องเที่ยวทางน้ำให้บรรยากาศที่แตกต่างจากทางบก โดยเฉพาะเดินทางช่วงกลางคืน พร้อมไฟสว่างจากแสงเทียน และดวงจันทร์ ดังนั้นการล่องเรือจึงเป็นที่นิยมมากมาจวบจนปัจจุบัน

โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำที่เป็นเหมือนแม่น้ำสายหลักที่สำคัญตั้งแต่สมัยกรุงเก่ามาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ไม่มีใครไม่รู้จักแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งชื่อเสียงและความสำคัญเพราะแม่น้ำเจจ้าพระยาเป็นแม่น้ำที่เกิดจากการรวมตัวกันของแม่น้ำสี่สายคือแม่น้ำ ปิง วัง ยม น่าน ไหลมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำที่เป็นเหมือนศูนย์กลางการทำการค้าขาย ธุรกิจ กับชาวต่างประเทศ และคนไทยด้วยกันเองมาย่างช้านาน

การล่องเรือเจ้าพระยานั้นทั้งสนุกและโรแมนติก ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นใจและแสนอบอุ่น เหมาะสำหรับคนรัก หรือครอบครัวที่ต้องการท่องเที่ยวกับประสบการณ์ที่ดีการล่องเรือเจ้าพระยาเป็นการท่องเที่ยวหรือพักผ่อนที่มีความนิยมมาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ

เพื่อมาพบปะและท่องเที่ยวแบบมีสไตล์ท่ามกลางแม่น้ำที่ยิ่งใหญ่อย่างเจ้าพระยา เรามีบริการทัวร์แม่น้ำเจ้าพระยา เที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมทั้งรับประทานอาหารมือที่สุดแสนอร่อยพร้อมบรรยากาศที่สวยงามท่ามกลางแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลไปอยากไม่มีจุดจบ

บริการเหมาเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา มีบริการพิเศษและทุกๆ ปีจะมีโปรโมชันพิเศษต่างๆ ออกมาเพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการล่องเรือกับตนรักหรือครอบครัวในวันที่พิเศษสุด เช่น ล่องเรือเจ้าพระยาในวันวาเลนไทพร้อมคนรักแบบดินเนอร์อาหารสุดประทับใจ ล่องเรือเจ้าพระยาในวันลอยกระทงชมแสงสีเสียงริมฝั่งเจ้าพระยา หรือพาแม่มานั่งเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อบอกรักแม่ในวันแม่ที่น่าประทับใจ เป็นต้น กิจกรรมในวันพิเศษนี้จะจัดขึ้นทุกปี ในแต่ละปีก็มีความพิเศษและแตกต่างกัน

ชั่งใจสักนิด ก่อนคิดกินอาหารเสริม

clip_image001

ภญ.อัมพร จันทรอาภรณ์กุล

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (food supplement) หลายคนมักเข้าใจว่าเป็นอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายคนปกติ รับประทานแล้วจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้ดีขึ้น จึงควรรับประทานเพิ่มเติมจากอาหาร 5 หมู่ ซึ่งในความหมายแท้จริงแล้ว ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ใช้รับประทาน นอกเหนือจากการรับประทานอาหารหลักตามปกติ(อาหารหลัก 5 หมู่) ซึ่งมักอยู่ในรูปลักษณะเป็นเม็ด แคปซูล ผง เกล็ด ของเหลว หรือลักษณะอื่นๆ โดยมีจุดมุ่งหมายสำหรับคนทั่วไปที่มีสุขภาพปกติ (มิใช่สำหรับผู้ป่วย) เช่น โสมสกัดแคปซูล รำข้าวสาลีชนิดเม็ด น้ำมันปลาแคปซูล ใยอาหารอัดเม็ด ใยอาหารผงสำหรับชงหรือโรยอาหาร แปะก๊วยสกัดแคปซูล เป็นต้น

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้รับความนิยมอย่างมาก กอปรกับรูปแบบชีวิตสังคมสมัยใหม่ ไม่เอื้ออำนวยให้มีเวลาว่างมากพอสำหรับการสร้างสุขภาพที่ดีคือการกินอาหารที่ดี ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ถูกมองข้ามไป แต่คนส่วนใหญ่อยากมีสุขภาพแข็งแรง กลัวการเจ็บป่วย กลัวความตาย ดังนั้นจึงนึกถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นสิ่งแรก ซึ่งผู้จำหน่ายก็มักมีวิธีการทำตลาดและส่งเสริมการขายที่แยบยลเจาะเข้าถึงใจผู้บริโภค ปัจจุบันโฆษณาได้ก้าวข้ามขีดความสามารถในการดูแลโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบไปอีกขั้นคือ สามารถกระจายข้อมูลได้อย่างรวดเร็วยากต่อการควบคุม เช่น เผยแพร่ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต เวบไซต์ต่างๆ อีเมล์ วิทยุ โทรทัศน์ แผ่นพับ ใบปลิว การแจกของชำร่วย ฯลฯ ซึ่งข้อมูลการโฆษณาเหล่านั้นมีทั้งจริงที่เชื่อถือได้และข้อมูลที่ยังไม่มีข้อยืนยันทางการแพทย์ ถ้าคุณสนใจค้นหาข้อมูล ลองเข้าไปดูที่โฮมเพจของคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา คือ http://quackwatch.org ได้จัดทำขึ้นเพื่อดูแลประชาชนอเมริกันเกี่ยวกับการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงของธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่หากใครไม่ถนัดภาษาอังกฤษก็ลองเข้าไปหาข้อมูลที่กองอาหารคณะกรรมการอาหารและยา http://www.fda.moph.go.th หรือที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคของประเทศไทยเรา http://www.consumerthai.org
ดังนั้นหากคุณที่กำลังใช้หรือสนใจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอยู่ ลองสืบหาข้อมูลให้ดีก่อน และแนวทางต่อไปนี้น่าจะช่วยประกอบการตัดสินใจของคุณได้บ้างค่ะ
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำเป็นหรือไม่ ??
ร่างกายของมนุษย์เราไม่สามารถผลิตสารอาหารที่จำเป็นต่อระบบชีวิตได้ทุกอย่าง เราสามารถทดแทนการขาดสารอาหารจำเป็นบางตัวได้ด้วยการรับประทานอาหารเข้าไป ซึ่งได้มาจากพืชและสัตว์ หากคุณสามารถรับประทานอาหารในแต่ละวันได้ครบถ้วนทั้ง 5หมู่ เรียกว่า กินดีแล้ว ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคงไม่มีความจำเป็น แต่หากคุณคิดว่าไม่สามารถรับประทานอาหารได้ครบก็ไม่มีความผิดอันใดที่จะซื้อหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมารับประทาน เช่น กรณีที่คุณเป็นคนไม่รับประทานผัก ผลไม้ การรับประทานวิตามินเสริมก็อาจมีความจำเป็น เช่นเดียวกับผู้ป่วยบางรายที่ต้องการสารอาหารบางชนิดมากเป็นพิเศษและได้รับคำแนะนำให้ใช้โดยแพทย์ผู้ดูแล

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารราคาแพง ??
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิดมีราคาแพง ซึ่งผู้ผลิตมักอ้างว่าสารอาหารที่นำมาขายเป็นสารอาหารที่จำเป็นและสำคัญ ทั้งต้องผลิตด้วยความยากลำบาก เหมือนกับกลั่นหรือสังเคราะห์เอามาแต่ของดีๆ ซึ่งอาจไม่จริงเสมอไป คุณควรพิจารณาราคาควบคู่ไปกับความคุ้มค่าที่จะได้รับว่าตรงกับวัตถุประสงค์ที่คุณจะใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆหรือไม่
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคุณประโยชน์ชัดเจน ??
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิดมีข้อพิสูจน์และผลงานวิจัยจำนวนมากที่เชื่อถือได้เป็นที่ยอมรับถึงคุณประโยชน์ของสารอาหาร แต่ก็ยังมีผลิตภัณฑ์บางชนิดที่ไม่มีข้อพิสูจน์ที่สามารถบ่งชี้ไปอย่างชัดเจนว่า “รักษาหรือป้องกันโรค…ได้” หรือบางผลิตภัณฑ์ยกตัวอย่างงานวิจัย ผลการทดลอง ที่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน บางผลิตภัณฑ์หยิบงานวิจัยเพียง 2-3 ชิ้นมาอ้างอิง เราจะเชื่อข้อมูลที่ผู้ผลิตเหล่านั้นได้อย่างไร มีเกณฑ์การพิจารณางานวิจัยง่ายๆ ดังนี้
o วิธีการศึกษาวิจัย การศึกษาวิจัยมีหลายแบบ อาจทำในหลอดทดลอง สัตว์ทดลอง คนปกติ หรือผู้ป่วย ซึ่งหากเป็นการศึกษาในหลอดทดลอง สัตว์ทดลอง ผลที่ได้จากการทดลองอาจ แตกต่างไปเมื่อนำมาใช้กับคน
o การนำผลการศึกษาวิจัยไปขยาย ต้องตรงกับผลการวิจัย การทดลองบางชิ้นไม่สามารถนำไปใช้ในประชากรกลุ่มใหญ่ได้ เช่น การศึกษาหนึ่งพบว่าสาร ก สามารถเพิ่มการทำงานของกล้ามเนื้อในผู้ป่วยได้ แต่ในการขายกลับบอกว่าสามารถเพิ่มปริมาณและพลังกล้ามเนื้อให้กับคนทั่วไปได้ ซึ่งไม่ตรงกับผลการวิจัย
o วิธีการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในกลุ่มตัวอย่าง ต้องตรงกับรูปแบบการใช้จริง เนื่องจากบางผลิตภัณฑ์ในการศึกษาอาจใช้การฉีดหรือฝังเข้าไปในสัตว์ทดลอง แต่เมื่อนำมาผลิตขายกลับทำในรูปแบบรับประทานหรือทาผิว ซึ่งไม่อาจสรุปได้แน่นอนว่าจะได้ผลในลักษณะเดียวกัน
การศึกษาวิจัยเพื่อค้นหาคำตอบว่า “สารอาหารนั้นมีคุณประโยชน์ มีสรรพคุณในการป้องกันหรือรักษาโรคได้หรือไม่” ต้องอาศัยระยะเวลาในการพิสูจน์ และผลสรุปจากงานวิจัยนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ ขึ้นกับว่าจะมีหลักฐานใหม่ๆ หรือไม่ ผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งอาจพบว่ามีประสิทธิภาพจริงในวันนี้ แต่ในอนาคตก็อาจได้ข้อมูลในทางกลับกันจากผลการทดลองใหม่ๆ ก็เป็นได้
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีคุณประโยชน์ หรือมีอันตราย ??
ต้องยอมรับในสัจธรรมว่าทุกสิ่งที่คนเราบริโภคล้วนมีทั้งคุณประโยชน์และโทษหรือผลข้างเคียง ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่เรากินอยู่ทุกวัน กระทั่งยาทุกชนิด และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็เช่นเดียวกัน หลายคนเข้าใจผิดว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทำมาจาก “ธรรมชาติ” ไม่น่าจะมีพิษหรือผลข้างเคียง ทั้งนี้ในพระราชบัญญัติอาหารควบคุมในส่วนของฉลากเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้มีการโฆษณาหรืออวดอ้างสรรพคุณเกี่ยวกับการรักษาหรือป้องกันโรคและถ้ามีผลข้างเคียงต้องมีคำเตือนระบุไว้ ดังนั้นก่อนที่คุณจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ต้องอ่านฉลากคำเตือนให้ดี ซึ่งบางชนิดก็ไม่ได้ระบุไว้ จะมีก็แต่สรรพคุณที่ดีโน้มน้าวให้เชื่อถือ ซึ่งหากคุณใช้แล้วเกิดอันตราย ก็ยากที่จะเอาผิดกับผู้ผลิตได้ เพราะกฎหมายหรือช่องทางการร้องเรียนยังมีจุดอ่อนอยู่มาก
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่ใช่ยา ??
การกล่าวอ้างสรรพคุณ ถือเป็นหัวใจของการขายซึ่งบางชนิดก็กล่าวอ้างเกินจริง ตามนิยามของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารระบุชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้รับประทานโดยตรง นอกเหนือจากรับประทานอาหารหลักตามปกติ ซึ่งมักอยู่ในรูปลักษณะเป็นเม็ด แคปซูล ผง เกล็ดของเหลว หรือลักษณะอื่นๆ และมีจุดมุ่งหมายสำหรับบุคคลทั่วไปที่มีสุขภาพปกติ (มิใช่ผู้ป่วย)” ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่จัดเป็นยา ดังนั้นจึงควรเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นเพียงส่วนเสริมเท่านั้นไม่สามารถบำบัดหรือรักษาโรคได้ เพราะหากรักษาโรคได้ต้องขึ้นทะเบียนเป็นยา ทั้งนี้ผู้ป่วยบางโรคหรือหญิงมีครรภ์หากได้รับผลิตภัณฑ์เสริมบางชนิดมากไปก็อาจมีผลข้างเคียงหรือเป็นอันตรายได้
อย่าปิดโอกาสที่จะได้รับการรักษาโรคอย่างเหมาะสม ??
กลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งคือ ผู้ที่เจ็บป่วยเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ หรือกลุ่มที่สิ้นหวังกับการรักษา เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง หรืออัมพาต โรคภัยชนิดเรื้อรังที่เป็นนั้นต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ตลอดจนต้องการการติดตามดูแลอาการอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผู้ชำนาญ ในกรณีที่คุณมีโรคประจำตัวหรือเจ็บป่วยอยู่ควรนำผลิตภัณฑ์ไปปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาหรือเภสัชกร ว่าจะมีปฏิกิริยากับโรคหรือยาที่รับประทานอยู่ประจำหรือไม่ หากไม่มีก็สามารถรับประทานได้แต่ไม่ควรหยุดรับประทานยาที่รักษาโรคของคุณควรรับประทานควบคู่กัน และหากจะหยุดรับประทานก็ควรแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยทุกครั้งเพื่อติดตามผลการรักษาอย่าง ต่อเนื่อง เพราะหากหยุดยารับเพียงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอาจทำให้เสียโอกาสในการรักษาที่ถูกต้อง

อย่างไรก็ตามยังมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำนวนไม่น้อยที่เป็นประโยชน์นะคะ เพียงต้องการให้คุณใช้วิจารญาณให้ดีก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาใช้ ทั้งคุณประโยชน์ที่จะได้รับและราคาที่สมเหตุผล
ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อยากมีกล้าม เล่นเวทอยู่แต่เพราะเขารูปร่างผอม กล้ามเลยไม่ชัดซักที ต้องทานอะไรเพิ่มมั้ยคะ??

คุณแฟนสูง 180 ซม.น้ำหนัก 65 ซม. รูปร่างกลางๆ ค่อนข้างไปทางผอมแต่โชคดีที่ไหล่กว้างนิดนึง
แต่เขาพยายามออกกำลังกาย เล่นเวท  คนเดียวบ้าง  ไปที่สนามกีฬาบ้าง (มีเพื่อนเล่นเวทด้วยกันกลางแจ้ง)
           แต่เขาตัวผอม แถมไม่ค่อยมีเวลาทานข้าว ทานได้แต่ช่วงเช้ากับเย็นค่ะ ทานเยอะเฉพาะช่วงเย็น
เพื่อนๆ ที่เล่นด้วยกัน เขามาจากรูปร่างท้วมก่อน  มีไขมันและตัวใหญ่   พอเล่นเวทจนพอมีกล้ามก็ดูฟูใหญ่ชัดเจน
บางคนหุ่นดีมากแบบนักกีฬาเพาะกายเลย   แต่แฟนเราเขาไม่ค่อยมีเนื้อหนังขึ้นกับเขาเลยค่ะ ทำไงดี
     ขอความเห็นด้วยนะคะ เพราะห้องนี้รักสุขภาพกันดีมากๆ เผื่อมีไอเดียดีๆจะได้ไปบอกแฟนค่ะ ไม่อยากเห็นเขากลุ้มใจทั้งวัน
1. ต้องทานอะไรดี เพิ่มกล้ามค่ะ
2. รูปร่างผอมมีสิทธิกล้ามโตมั้ยคะ
3. ออกกำลังท่าไหน แนะนำได้นะคะ

 

ใครต้องการมีกล้าม ต้องไม่มีข้ออ้างครับ
การที่เราจะมีกล้ามได้ ต้องมาจากสามอย่างหลักๆครับ
1. เล่นให้หนักพอและเล่นถูกต้อง (ส่วนท่าไหนลองศึกษาในเว็บต่างๆดู รายละเอียดเยอะ)
2.ทานอาหารให้ถึง (โดยเฉพาะโปรตีน แต่อย่าลม คาโบไฮเดรตต้องถึงด้วย)
3.การพักผ่อนให้เพียงพอ จำเป็นต้่อการสร้างกล้าม
คนรูปร่างผอมได้เปรียบตรงที่ ไม่ต้องห่วงเรื่องไขมันมากนัก ไม่ต้องคอยรีดไขมัน กล้ามก็ชัดระดับนึงแล้วครับ (แต่ต้องกินครบถ้วนนะครับ

กินให้เยอะขึ้น บ่อยขึ้น โดยเน้นเพิ่มโปรตีน
เวลาเล่นเวทก็เล่นแบบเน้นใช้น้ำหนักเยอะ จำนวนครั้งในเซ็ทไม่ต้องเยอะ
นอนพักผ่อนให้มากขึ้น

กินเนื้อสัตว์ให้เยอะขึ้นครับ กินให้เยอะกว่าเดิม สุดท้ายน้ำหนักจะเพิ่มขึ้น แล้วออกกำลังควบคู่ไปด้วย กล้ามขึ้นแน่นอนครับ

คนที่บ้านก็ผอมเหมือนกันค่ะ ส่วนสูงและน้ำหนักใกล้เคียงกัน คือสูง 183 หนัก 68 กิโล เค้าเป็นคนไหล่แคบก็เริ่มออกกำลังโดยไปสมัครเข้าฟิตเนต มีคนฝึกแนะเครื่องเล่นออกกำลังแบบต่างๆ โดยต้องใช้เครื่องรวม 6 อย่างเล่นอย่างละ 15 ครั้งแล้วพัก 1 นาทีแล้วทำอีกรวม 3 ครั้งเห็นเค้าบอกว่าเครื่องเล่นแต่ละอย่างจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อคนละส่วน และต้องไปสม่ำเสมอ เค้าจะไปครั้งละ 2 ชั่วโมง เล่นไปพักไป เค้าไปวันเว้นวันค่ะ ไปมารวม 6 เดือนก็พอเห็นผลนะคะเริ่มมีกล้ามที่แขนและช่วงไหล่ก็กว้างขึ้น เรื่องน้ำหนักออกแรงเยอะกลับมาก็จะหิวมากทานเยอะค่ะ ตอนนี้หนัก 75 กิโลแล้วค่ะ
ถ้าต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อต้องขยันไปออกกำลังสม่ำเสมอค่ะ แต่ผลที่ได้ตามมาคือเค้าดูแข็งแรงขึ้นเวลาเดินทางไปเที่ยวไหนยกกระเป๋าเดิน ทางใบใหญ่ได้สบายมากเลยค่ะ

วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ปลา - อาหารคู่ชีวิต

ปลา  เป็นอาหารคู่ชีวิตของคนไทยจนเราพูดกันติดปากว่า  “กินข้าว   กินปลา” ปลาเป็นอาหารที่หาได้ง่ายตามแหล่งน้ำต่างๆ  ทั้งที่เป็นธรรมชาติและแหล่งน้ำที่จัดสร้างขึ้น  คนไทยรู้จักจับปลาเป็นอาหารและขายเป็นสินค้าโดยใช้เครื่องมือง่ายๆ ตลอดจนใช้เครื่องมือที่ทันสมัย  ทำให้ประเทศไทยเรามีปลาบริโภคมากมายหลายชนิดและจำหน่ายเป็นสินค้าส่งออกที่ นำรายได้เข้าสู่ประเทศ

14557504

คุณค่าทางด้านโภชนาการของปลา

          ปลาเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง  เราจัดปลาไว้ในอาหารหลักหมู่ที่หนึ่งในประเภทเนื้อสัตว์  ไข่  นมและถั่วเมล็ดแห้ง  โปรตีนในเนื้อปลาจะถูกนำไปใช้ในการเสริมสร้างเนื้อเยื่อและซ่อมแซมสิ่งที่ สึกหรอ   ไขมันที่มีอยู่ในเนื้อปลาจะเป็นส่วนประกอบของเซลล์ต่างๆ  โดยเฉพาะสมอง  จะป้องกันการจับแข็งตัวของไขมันในเส้นเลือด  วิตามิน และแร่ธาตุที่มีอยู่ในเนื้อปลาจะควบคุมการทำงานของร่างกายให้ทำหน้าที่ได้ ตามปกติ

คุณค่าทางด้านโปรตีน  ปลาชนิดต่าง ๆ  ให้โปรตีนในปริมาณที่สูงพอสมควร เนื้อปลา  100 กรัม  จะประกอบขึ้นด้วยโปรตีนเป็นจำนวนกรัม  ดังนี้  ปลาดุก 23.0  ปลาตะเพียน  22.0  ปลากระบอก  20.7  ปลาช่อน  20.5  ปลาทู  20.0  ปลาแป้น  19.6  ปลาเก๋า  1808  ปลาทรายแดง  18.4  ปลาตาเดียว  18.1  ปลาไส้ตัน 18.0  ปลากราย  17.5  ปลาหมอไทย  17.2  ปลาสวาย  15.4  ปลาหมึกกล้วย  15.2  และปลาเนื้ออ่อน  14.4

          เมื่อทำการศึกษาลงไปในรายละเอียดในด้านคุณภาพของโปรตีนในเนื้อ ปลาโดยทำการวิเคราะห์หาปริมาณกรดอะมิโน  พบว่า  โปรตีนในเนื้อปลาประกอบด้วย  กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายสูง  โดยเฉพาะไลซีนและทรีโอนีน  ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตในเด็กและจากการประเมินคุณภาพของโปรตีนโดยใช้ค่า คะแนนของกรดอะมิโน  (Amino  acid  score)  พบว่า  ปลาต่างๆ มีคะแนนดังนี้  ปลาทู  92  ( ทัดเทียมกับน้ำนมวัวซึ่งมีค่าเท่ากับ  91 )  ปลาตาเดียว  88  ปลาทรายแดง  81  ปลาช่อน  76  และปลาหมึกกล้วย  74

          เนื้อปลานั้น  นอกจากจะมีคุณภาพและปริมาณของโปรตีนสูงแล้ว  ตามลักษณะโดยธรรมชาติของเนื้อปลา  ยังพบว่า  มีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันน้อยมากเมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์อย่างอื่น  ดังนั้น  เนื้อปลาจึงมีลักษณะอ่อนนิ่ม  เคี้ยวง่าย  นำไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่จึงเหมะสำหรับเป็นอาหารทารก  ผู้สูงอายุและผู้ป่วย

คุณค่าทางด้านไขมัน   ไขมันที่ประกอบในเนื้อปลาทำให้รสชาติและสีของเนื้อปลาแตกต่างกันออกไป เนื้อปลา  100  กรัม  ประกอบด้วยไขมันเป็นจำนวนกรัมดังนี้  ปลาสวาย  21.5  ปลาทู  6.7  ปลากระบอก  3.9  ปลาช่อน 3.8  ปลาตะเพียน  2.6  ปลาดุก  2.4 ปลาเนื้ออ่อน  2.3  ปลากราย  1.6  ปลาทรายแดง  1.0 ปลาแป้น  1.0  ปลาหมึกกล้วย  0.7 ปลาเก๋า  0.5  ปลาไส้ตัน  0.3  และปลาตาเดียว  0.1

           เมื่อทำการศึกษาถึงคุณภาพของไขมันที่อยู่ในเนื้อปลา   โดยทำการวิเคราะห์หาปริมาณของกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย  โดยเฉพาะกรดไลโนเลอิค  (Linoleic  acid) (C 18 : 2 , n 6 ) ซึ่งมีหน้าที่ต่างๆ ต่อร่างกาย  ดังนี้
1)  เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์โดยการเปลี่ยนเป็นกรดไขมันที่จำเป็นอีกชนิด หนึ่ง  คือ กรดอะแรคคิโคนิค  (Arachidonic acid) (C 20 : 4 , n 6 )
2)  ควบคุมระดับของโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด  จึงมีส่วนลดอัตราการตายจากโรคหัวใจชนิดหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบตัน
3)  เป็นต้นกำเนิดฮอร์โมนโปรสตาไซคลิน  ซึ่งมีฤทธิ์ขัดขวางการจับตัวของเกร็ดเลือด  ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดต่าง ๆและ
4) กรดไลโนเลอิคที่เปลี่ยนเป็นฮอร์โมนโปรสตาแกลนดิน  จะทำให้ไตเพิ่มการขับถ่ายโซเดียมและน้ำออกจากร่างกาย  จึงีส่วนควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติผลของการวิเคราะห์พบว่า  ปลาชนิดต่างๆ มีองค์ประกอบของไลโนเลอิคเป็นเปอร์เซ็นต์ของไขมันดังนี้  ปลาตะเพียน  19.36 ปลากราย 13.47  ปลาดุก  11.82  ปลาหมอไทย  9.03 ปลาช่อน  6.00 ปลาสวาย  4.0  ปลาเนื้ออ่อน 4.09  ปลาแป้น 2.65  ปลาทรายแดง  2.05  ปลาไส้ตัน  2.03  ปลาเก๋า  1.77  ปลาทู 1.67  ปลาตาเดียว  1.49 และปลาหมึกกล้วย  1.67

           นอกจากกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว กองโภชนาการยังได้ทำการศึกษากรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่มีความสำคัญต่อร่าง กายได้แก่ Eicosapentaenoic acid หรือ อีพีเอ (EPA)  Docosahexaenoic  acic  หรือ ดี เอ็ช เอ (DHA)  ด้วย

           อี พี เอ เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่งที่มีคุณสมบัติลดปัญหาการเป็นโรคหัวใจ ขาดเลือด ได้เนื่องจากเป็นสารตั้งต้นในการสร้างสารไอโคซานอยด์ที่มีคุณสมบัติลดการจับ ตัวของเกร็ดเลือด นอกจากนั้น  ร่างกายสามารถนำกรดไขมัน อี พี เอ นี้ไปสร้างสารที่ช่วยการขยายตัวของหลอดเลือดด้วย

           อี พี เอ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของไขมันดังนี้  ปลาทู  12.24  ปลาหมึกกล้วย  8.00  ปลาแป้น  7.87 ปลาใส้ตัน  6.43  ปลาเก๋า 4.44  ปลาช่อน 3.70  ปลาทรายแดง  3.05  ปลาสวาย  2.22  ปลาตาเดียว  2.06  ปลาเนื้ออ่อน 1.73  ปลาตะเพียน 0.76  ปลาหมอไทย 0.73  ปลากราย 0.68  และปลาดุก 0.54

           สำหรับกรดไขมันอีกชนิดหนึ่งในกลุ่มเดียวกันนี้ คือ ดี เอ็ช เอ  นั้นมีส่วนพิสูจน์คำกล่าวที่ว่า  “กินปลาแล้วสมองดี” สาร ดี เอ็ช เอ  นี้มีในผนังเซลล์ทั่วร่างกาย  ทำให้เซลล์มีความไวต่อการรับสัญญานประสาท  นอกจากนั้นยังพบว่ามีปริมาณสูงในจอตาและที่สำคัญที่สุด คือ  เป็นไขมันที่เป็นส่วนประกอบของเซลล์สมอง  ซึ่งพบว่ามีถึงร้อยละ 65  สมองมนุษย์มีไขมันชนิดนี้เป็นส่วนประกอบอยู่ครึ่งหนึ่งก่อนกำเนิด  ส่วนทีเหลือจะได้มาในช่วงปีแรกของชีวิต  เพราะฉะนั้น ดี เอ็ช เอ  จึงมีความสำคัญมากต่อสตรีในระยะตั้งครรภ์และมารดาในระยะให้นมบุตร ที่ช่วยให้สมองทารกพัฒนาและเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ ผลการวิเคราะห์กรดนี้จากเนื้อปลาคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของไขมันมีดังนี้ ปลาหมึกกล้วย 29.41  ปลาตาเดียว 25.35  ปลาทรายแดง 25.01  ปลาไส้ตัน 20.78 ปลาเก๋า 19.38 ปลาช่อน 16.39 ปลาทู 14.96  ปลาแป้น 11.31 ปลาสวาย  9.21 ปลาหมอไทย 6.59  ปลาดุก 4.22 ปลาตะเพียน 4.50  ปลาเนื้ออ่อน 3.15 และปลากราย 2.23

คุณค่าทางด้านแร่ธาตุ  เมื่อศึกษาถึงองค์ประกอบของแร่ธาตุที่มีอยู่ในเนื้อปลาแล้วพบว่า  เนื้อปลาส่วนใหญ่มีส่วนประกอบของแร่ธาตุแคลเซียมละฟอสฟอรัสในสัดส่วนที่พอดี ต่อการสร้างกระดูกและฟัน  นอกจากนั้นยังพบว่าปลาบางชนิด  ได้แก่  ปลาตาเดียว  ปลาทู  ปลาไส้ตัน  ปลากระบอกและปลาหมอไทย  มีธาตุเหล็กซึ่งเป็นส่วนประกอบในการสร้างเม็ดโลหิตแดง ธาตุนี้ป้องกันโรคโลหิตจางและแร่ธาตุที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งที่พบว่ามีมากใน ปลาทะเลโดยเฉพาะปลาทู ปลาแป้น และปลากระบอก
คือ  ธาตุไอโอดีนที่เป็นส่วนประกอบของฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์  มีหน้าที่ควบคุมการเผลาผลาญของพลังงานในร่างกาย ยิ่งไปกว่านั้นธาตุไอโอดีนยังเป็นส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของสมองด้วย

คุณค่าทางด้านวิตามิน  เนื้อปลามีส่วนประกอบของวิตามินบีหนึ่ง  บีสอง  และไนอะซิน  ที่ช่วยในการเกิดพลังงานของสารคาร์โบไฮเดรท  ไขมันและโปรตีน  ทำให้ร่างกายมีประสิทธิภาพในการประกอบการงานและการเรียนรู้  ปลาชนิดต่าง  ๆ   ที่มีวิตามินเหล่านี้สูง ได้แก่ ปลาทู ปลากราย  ปลากระบอก  ปลาแป้น  ปลาทรายแดง  ปลาตะเพียน  ปลาหมอไทยและปลาหมึกกล้วย

นอก จากคุณค่าทางโภชนาการของเนื้อปลาดังกล่าวข้างต้นแล้ว   ส่วนประกอบอื่นๆ ของปลา เช่น ไข่ปลา (ปลากระบอก)  มีโปรตีนและไขมันสูงเช่นกัน  นอกจากนั้นยังประกอบด้วยธาตุแคลเซียม  ฟอสฟอรัส  เหล็ก  วิตามินเอ  วิตามินบีสอง  สูง   เช่นกัน  ตับปลาโดยเฉพาะปลาทะเล  มีปริมาณของ
วิตามิน เอและดี สูง จึงนำมาสกัดทำน้ำมันตับปลา ปลาเล็กปลาน้อยที่กินกระดูกได้ให้ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงด้วยเช่นกัน  กล่าวโดยสรุปก็คือ  ปลามีคุณค่าทางโภชนาการสูงในทุกด้าน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านองค์ประกอบของไขมัน และไอโอดีน  ที่มีส่วนพิสูจน์คำกล่าวที่ว่า “กินปลาแล้วสมองจะดี”

          ดังนั้น  เพื่อให้เยาวชนของชาติมีมันสมองที่ฉลาด  เป็นกำลังสำคัญในอนาคตและเพื่อให้ผู้ใหญ่ในวันนี้มีสุขภาพอนามัยที่สมบูรณ์  ปราศจากโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจมีประสิทธิภาพในการประกอบอาชีพสูง  เราควรนำปลา – อาหารคู่ชีวิต   มาประกอบอาหารรับประทานทุกวัน วันนี้ ท่านนึกได้หรือยังว่าจะทำอาหารอะไรดี  ถ้าท่านยังนึกไม่ออก  เรามีรายการเสนอแนะให้กับท่าน  เชิญตามมาดูรายการอาหารปลากับเราดีกว่า

How to: ลดน้ำหนัก 28 กก. จากอีหมีควายกลายเป็นสายน้อย

เอาล่ะค่ะวันนี้จะมาแจกแจง อาหารที่รับประทาน กับการออกกำลังกายนะคะ
แต่ขอย้ำตรงนี้เลยว่า มันไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องทำแบบนุ๊ก คุณต้องเอาไปปรับใช้ให้มันเหมาะสมกับตัวเอง
แล้วนุ๊กใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือนในการลด มันไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องใช้เวลาเท่านี้
มันอาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าก็ได้ โอเคนะคะ เคลียร์!

แนะนำตัว: สนุ๊กเกอร์ / นุ๊ก
เรียนอยู่: มหาวิทยาลัยมหิดล นานาชาติ การท่องเที่ยวและการบริการ
ติดต่อ: https://www.facebook.com/KulaphatsornT
คือ อย่างที่บอกนะคะ การลดน้ำหนักมันมีทางเดียว ไม่มีทางลัด
1. ควบคุมอาหาร

2. ออกกำลังกาย
การควบคุมอาหาร มันไม่ใช่การ "อดอาหาร" คุณกินได้เท่าที่อิ่ม
แต่ไม่ใช่ว่าอิ่มจนจุก หรืออิ่มแบบตื๊อจนแทบอาเจียน
แล้วการควบคุมอาหาร มันไม่ได้ใช่การควบคุมแคลอรี่ เพราะถามว่า ถ้าคุณต้องควบคุมแคลอรี่ทุกวัน
คุณแน่ใจใช่มั้ยค่ะ ว่าคุณจะสามารถควบคุมแคลอรี่เท่านี้ไปได้ตลอดชีวิต
ควบคุมอาหารคือ การหลีกเลี่ยงอาหารมันๆ เลี่ยนๆ และของทอด ของหวานขนมหวานทุกชนิด รวมไปถึงพวกแป้งทั้งหลายแหล่
มีหลายคนมากถามนุ๊กมาว่า ทุกวันนี้นุ๊กกินมื้อเย็นรึเปล่า หรือนุ๊กไม่กินเนื้อสัตว์กับแป้งเลยใช่มั้ย คือชีวิตมีแต่ผัก!??
ตอบเลยนะคะ กินค่ะ ข้าวเย็นก็กิน ไม่เคยอดตั้งแต่แรก ถ้าคุณอดมื้อใดมื้อหนึ่ง มันก็จะไปหิวต่อเนื่องไปจนถึงอีกมื้อ สุดท้ายก็ ตู้ม ตบะแตก!!
การลดน้ำหนักมันไม่ได้หมายความว่าคุณห้ามกินเนื้อสัตว์เพราะมันอ้วน
เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน อย่างเช่น ปลาเผา และ อกไก่ย่าง หมูอบ ฯลฯ อะไรก็ว่าไป พวกนี้คุณกินได้ค่ะ
ส่วนพวกแป้ง ถ้าคุณอดมากๆ มันจะโหย ให้คุณพยายามกินแป้งที่มันไม่ขัดสี เช่นข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง หรือขนมปังโฮลวีต

ตัวนุ๊กเองโชคดีที่คุณแม่อยากให้ลูกสาวลดน้ำหนัก
เลยทำพวกสเต็กปลา หมูอบ และเปลี่ยนมาทานข้าวซ้อมมือกันทั้งบ้าน
แต่ถึงกระนั้นมันจะไม่มีประโยชน์เลยถ้านุ๊กไปหลุดกินอาหารอ้วนๆ ข้างนอกบ้าน
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ "วินัย" นะคะ
ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าอาหารที่คุณกำลังจะกิน หรืออยากกิน หรือกินไปแล้วมันอ้วนรึเปล่า
นุ๊กบอกได้คำเดียวว่า คุณต้องคิดเอาเองค่ะ นุ๊กก็ตอบไม่ได้ ไม่ใช่ผู้หยั่งรู้ จะไปรู้เรื่องร่างกายคุณดีกว่าตัวคุณได้ยังไง
คุณไม่รู้เหรอค่ะว่ารสชาติของมันหวาน เผ็ด เค็ม ปริมาณที่คุณกินมันเยอะแค่ไหน
ถ้าสมมุตินุ๊กบอกว่า อ้วน กินไม่ได้ แต่คุณอยากจะกิน มันก็คงไม่มีประโยชน์อยู่ดี
หากพลาดกินไปแล้ว ก็มาเริ่มใหม่ค่ะ แล้วก็จำเอาไว้ด้วยว่า วันนี้คุณไม่มีวินัย ทำให้ทุกอย่างผิดพลาด
ไม่ใช่มาถามว่า นั่นอ้วนมั้ย นี่อ้วนมั้ย อันที่จริงนุ๊กว่าทุกคนรู้อยู่แล้วนะคะ เพียงแต่หลอกตัวเองเพราะจะได้กินมันเข้าไปได้
ยกตัวอย่างเช่น "เมื่อกี้ฉันกินข้าวนิดเดียวเอง กินเป๊ปซี่ตามอีกกระป๋องไม่น่าอ้วน"
คิดอย่างนั้นมันก็ได้แค่คิดอ่ะค่ะ เพราะเรื่องจริงมันอ้วนแน่นอน
แล้วพวกคำถามที่ว่า "อยากกินตลอดเลยค่ะ ทำยังไงดีคะ?” เอ่ออออ อันนี้จะให้ตอบว่ายังไงอ่ะค่ะ?? แล้วไม่ได้ถามมาคนสองคนแต่ถามมาเยอะมาก
อย่างที่นุ๊กบอกตั้งแต่กระทู้ที่แล้วแล้ว ว่ามันอยู่ที่ "ใจ"
แล้วก็อย่าเพิ่งท้อคิดว่าคุณต้องกินอย่างนี้ไปตลอดชีวิต
ทุกวันนี้นุ๊กเองก็กินขนมบ้างค่ะ ไม่เชื่อก็ดูซะ 555

แต่ไม่ได้ยัดนุ่นเข้าไปเหมือนเมื่อก่อน
แค่กินให้มันหายอยากค่ะ หรือถ้าสมมุติคุณตั้งเป้าอยากลด 20 กิโล
คุณลดไปได้ 10 กิโลแรก อยากให้รางวัลตัวเอง อย่างนั้นสามารถทำได้นะคะ
แต่ย้ำว่า นิดเดียวเท่านั้น!!! ไม่ใช่ซัดKFC แบบเต็มที่ต้องกลับไปลดเพิ่มอีกเหนื่อยกว่าเดิม
****
พวกโภชนาการจบไปแล้วนะคะ มาต่อพวกออกกำลังกายเลยก็แล้วกัน
ช่วงลดน้ำหนัก นุ๊กจะออกกำลังกาย ทุกวัน วันล่ะไม่ต่ำกว่า 90 นาที
ที่เขียนในกระทู้ที่แล้วว่า ฮูลาฮู้บ กับ ซิทอัพ มันไม่ได้หมายความว่านุ๊กทำแค่ 2 อย่างนี้นะคะ
บอกเลยว่าทำทุกอย่าง
อะไรก็ตามที่เป็นการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะใช้บันไดแทนลิฟต์
อาสาลงไปเปิดประตูรั้วให้แม่กับพ่อทุกครั้ง (ฮา คือประตูมันหนักอ่ะค่ะ มันจะได้ออกแรง)
ลุกขึ้นมาจัดห้อง เล่นไอซ์เสก็ตเวลาไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วก็แอโรบิคเองที่บ้านด้วย
ฮูลาฮู้บที่นุ๊กใช้เล่นจะหน้าตาเป็นแบบนี้!


คะแนน : 10/10 !
ราคา : 520 บาท
คอมเม้นท์ : พระเอกในการลดน้ำหนักเลยคะ เหวี่ยงทุกวัน ครั้งล่ะ 30 นาที เช้า-เย็น ลดจริงๆ ทั้งรอบเอวและน้ำหนัก ถึงราคาจะแพง แต่ซื้อครั้งเดียวใช้ไปตลอด
สำหรับคนที่ถามกันเข้ามาว่า ฮูลาฮู้บที่ใช้เล่นควรมีลักษณะเป็นยังไง อันนี้นุ๊กคิดว่ามันขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคน แต่ถ้าให้นุ๊กตอบ นุ๊กคิดว่า
ฮูลาฮู้บที่เหมาะในการลดน้ำหนัก ควรมีความหนักนิดหนึ่ง สัก 3 ปอนด์ หรือ 1 – 1.5 กิโลกรัม
แล้วก็โยกแบบพอดีค่ะ ไม่ใช่โยกจนเอวเคล็ด เดี๋ยวต้องเสียตังค์ไปหาหมออีก
หรือว่าหมุนจนเกินเหตุ (แบบนุ๊ก T T) ก็ไม่ดีนะคะ เพราะฮูลาฮู้บเสียดสีกับร่างกายมาเกินไป
นุ๊กถึงขั้นเป็นแผลที่เอวสองข้างเลยล่ะค่ะ ทุกวันนี้มีรอยอยู่เลย

ตอนแรกยอมรับเลยค่ะว่าเล่นแค่ฮูลาฮู้บอย่างเดียว สักพักมันก็เริ่มอยู่ตัว ไม่ลด ก็เลยคิดว่า เออมันน้อยไปนะ แค่ฮูลาฮู้บกับซิทอัพเนี่ย
แล้วพอดีตอนนั้นอยู่ม. 6 ที่โรงเรียนวิชาพละมีให้สอบกระโดดเชือก
รู้สึกจะผู้หญิง 200 ครั้ง ผู้ชายให้ได้ 300 ครั้ง
ทุกคนกระโดดได้ แต่ปัญหาคือ "มันเหนื่อยยยยย"
นุ๊กเลยกลับมาฝึกกระโดดที่บ้านเพื่อหวังจะเอาไปสอบ
ปรากฎว่าซ้อมไปได้สักอาทิตย์ เฮ้ยยย น้ำหนักลงไม่พอ สัดส่วนอะไรลดหมด
เลยตัดสินใจโดดเป็นชีวิตประจำวันไปเลยค่ะ
ไปๆ มาๆ มีช่วงนึงกระโดดวันล่ะ 1000 ที
Yes! สัดส่วนลงไปทั้งตัวน่าพอใจมากๆๆๆ เลยค่ะ

(รูปตอน ม.6)
อีกอันนึงที่เราทำสม่ำเสมอจนทุกวันนี้แล้วชอบมากๆ
คือวิธีการกระโดดแบบสาวๆ SNSD ค่ะ หัวเราะ
ตัวนุ๊กเองชอบทิฟฟานี่มากกก
แล้วพอหลังจากมาเจอคลิปนี้ กระโดดนับตั้งแต่วันนั้นเลยค่ะ วันล่ะ 3 เซ็ท
นุ๊กคิดว่ามันเวิร์กอยู่นะคะ เพราะรู้สึกขากระชับขึ้นมาก น้ำหนักก็ลงไปอย่างต่อเนื่อง
ใครกระโดดไปเป็น ไปชมคลิปโลด
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
อ้าวเว้ยโดดใหญ่ ฮึ้บฮึ้บฮึ้บ!
โดดไปโดดมาได้ขาแบบนี้มา!!


กร๊าซซซซซ น้ำหนักลงไปอีก 6 กิโล
ขาลงมา 3-4 นิ้ว!!
กระชับทำให้ดูรูปร่างสวยด้วย
โอ้วววว แบบนี้ต้องทำไปตลอดดซะแล้ววว
เสริม! เคล็ดลับในการลดน้ำหนักที่ได้ผลและทำให้เกิดแรงใจ
ให้เอารูปคนดังที่คุณชอบ มาแปะเอาไว้ หรือตั้งเป็นหน้าจอคอม มือถือเลยค่ะ
แล้วท่องว่าฉันจะต้องดูดีแบบนี้ ...ฉันจะต้องดูดีแบบนี้ ..ดูดีแบบนี้ ...แบบนี้

** จำเป็นมั้ยว่าต้องออกกำลังกายแบบนุ๊กเป๊ะ!
ตอบเลยค่ะว่าไม่จำเป็น
คุณอยากออกกำลังกายแบบไหนก็ทำไปเถอะค่ะ
ขอให้มันเหมาะกับคุณและได้เคลื่อนไหวร่างกาย
คนที่อ้วนมากๆ เป็นร้อยโล
ก็ไม่ควรจะกระโดดเชือกตั้งแต่เริ่มเพราะมันทำให้ข้อเข่าคุณต้องรับน้ำหนักมาก อาจจะข้อเข่าเสื่อมได้
คุณอาจจะไปว่ายน้ำ หรือวิ่งลู่วิ่ง มันก็แล้วแต่คุณ
รุ่นน้องคนนึงลดความอ้วนด้วยการกระโดดยางค่ะ เพราะมันเป็นการละเล่นที่น้องเค้าชอบแล้วก็ได้ออกแรงเยอะด้วย
แต่ละคนก็ต้องมีจุดยืนเป็นของตัวเอง จะมาเลียนแบบกันทุกอย่างคงไม่ได้นะคะ
ฉะนั้นพวกที่ชอบถามว่า เล่นฮูลาฮู้บไม่เป็นควรทำอย่างไรดี
คุณคงได้คำตอบกันแล้วนะค้าา

http://pantip.com/topic/31057368

วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

แนะนำ...เคล็ดลับการลดพุงง่ายๆ


การมีพุงเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวของสาวๆ ซะจริงๆ ก็แหม่ไม่ว่าสาวคนไหนก็ย่อมอยากที่จะมีหุ่นดี หุ่นสวย หน้าท้องแบนราบ ง่ายๆ ว่าทุกอย่างต้องเป๊ะอะค่ะ แต่เนื่องจากว่าคนเราทุกคนนั้นก็ใช่ว่าจะมีทุกอย่างที่เป๊ะดั่งใจ ก็ต้องมีทำเองกันบ้างหล่ะน๊าเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดีกว่าไม่ทำเลย แต่ไอ้เรื่องพุงนี้สิจะลดอะลดได้ แต่สิ่งที่รู้คือการลดพุงมันลดอยากมากเลยอ่า ฮือๆๆๆ จะทำยังงัยหล่ะค่ะที่นี้ อยากใส่ชุดรับรูปโชว์เเคลิฟที่เป็นตัว s สะหน่อยโอ้ม้ายยยยยยยย......มีพุงยื่นออกมาสะงั้นไม่ไหวแน่ๆ ก็อย่าได้เคลียดขนาดนั้นเลยค่ะเพราะวันนี้อยากจะบอกว่า N3K จะมาแนะนำ...เคล็ดลับการลดพุงง่ายๆ ให้สาวๆ ได้หายเคลียดกันค่ะ อยากจะรู้แล้วสิค่ะว่า เคล็ดลับการลดพุงง่ายๆ ที่เราบอกกันนั้นจะเป็นอย่างไร อะงั้นเอาเป็นว่าตอนนี้เราไปดู เคล็ดลับการลดพุงง่ายๆ กันได้เลยค่ะ
เคล็ดลับการลดพุงง่ายๆ
1. ทานผักกันเถอะ
เริ่มจากวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำกันได้ทุกมื้อออาหารที่รับประทานกันทุกวันนะคะ เพียงแค่คุณสาวๆ รับประทานผักให้มากๆ การรับประทานผักให้มากๆ ให้ได้สัก 5 ครั้ง/วัน ทำให้ ลดพุง ได้เลยทีเดียว คุณอาจเลือกรับประทานผักเป็นอาหารว่าง ระหว่างวันบ้างก็ได้ และสำหรับคนที่เกลียดผักจริงๆ อาจจะเริ่มรับประทานแต่น้อยๆ ก่อนก็ไม่ว่ากัน ส่วนเนื้อสัตว์ คุณก็ไม่จำเป็นต้องอด เพียงแต่ลดประมาณลงบ้าง และรับประทานเนื้อสัก 2 – 3 มื้อ/อาทิตย์ก็พอ เครื่องออกกำลังกาย
2. อาหารเช้า
สาวๆ ควรที่จะรับประทานแต่เช้าและรับประทานบ่อยๆ   การรับประทานอาหารแต่เช้า จะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีตลอดทั้งวัน และมีโอกาสได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์มากกว่า เพราะถ้าคุณรับประทานอาหารเช้า ก่อนเวลาเที่ยงคุณจะไม่หิวแน่นอน แต่ถ้าคุณอดช่วงเช้า ก่อนเที่ยงคุณจะเริ่มหิวและอาจจะหาของขบเคี้ยวต่างๆ มารับประทานเล่น ซึ่งไม่มีประโยชน์ และทำให้อ้วนมากกว่าอาหารหลักอีก
3. การเดิน
ควรเดินให้ได้ทุกวัน แรกเริ่มคุณอาจไม่ต้องเดินเยอะมากมายอะไรนัก เพียงเดินให้บ่อยขึ้นกว่าปกติ เช่น เปลี่ยนมาใช้บันไดแทนลิฟต์ หรือ ลองเดินไปรับประทานอาหารกลางวันไกลๆ ดูบ้าง
4. ออกกำลังกาย
โดยการบริหารหน้าท้องและเพิ่มกล้ามเนื้อ ก่อนนอนลองซิตอัพสัก 15 ครั้ง และถ้ามีเวลา ก็ออกกำลังกายบ้าง โดยจะเข้าฟิตเนสส์ เล่นแบดมินตัน หรือว่ายน้ำก็ได้ เพราะการออกกำลังกายทุกชนิด จะช่วยสลายให้ไขมันแปรสภาพเป็นกล้ามเนื้อ
5. เสริมวิตามิน
รับประทานวิตามิน E เนื่องจากวิตามิน E จะช่วยป้องกันโรคหัวใจ ไข้หวัด และมะเร็งได้แล้ว วิตามิน E ยังช่วยป้องกัน หน้าท้องขยายได้ด้วย เพราะวิตามิน E นั้นมีสารต่อต้านอิซูลิน อันจะทำให้เราอ้วนได้
6. เปลี่ยนนิสัยบอกใจตัวเองไม่ให้เครียด
เพราะถ้าคุณเอาแต่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดเก็บกดเวลาเครียดแล้ว ความเครียดตัวร้ายนี้จะไปเร่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ให้ทำงานมากขึ้น และเมื่อเรามีฮอร์โมนตัวนี้มากขึ้นเมื่อไร เจ้าฮอร์โมนตัวนี้ก็จะส่งไขมันของเราไปกองที่หน้าท้องจนหมด อันจะทำให้เราพุงยื่นเหมือนชูชกได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเครียดจงหลับตาสูดหายใจลึกๆ ทำใจให้สบายจะดีกว่า
7. มาคบเพื่อนให้มากๆ
เพื่อให้คุณได้สามารถพูดคุยหรือปรึกษาได้ โดยเฉพาะมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ในการลดน้ำหนักเหมือนกัน จะยิ่งทำให้คุณลดน้ำหนักได้ดีขึ้นและสนุกขึ้น โดยคุณอาจจะแข่งกันออกกำลังกาย หรือแข่งกันรับประทานผักให้เยอะๆ โดยถ้าใครลดน้ำหนักได้มากที่สุดจะได้รางวัล แบบนี้การลดน้ำหนักจะยิ่งดูมีสีสันและสนุกขึ้น เครื่องออกกำลังกาย
8. ลดละเลิกแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด
เพราะเบียร์จะทำให้หน้าท้องคุณ ยื่นได้อย่างน่าเกลียดแต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ให้ดื่มแต่น้อย หรือจะเปลี่ยนมาดื่มไวน์แทนก็ไม่เลวเลย เพราะไวน์จะช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ดี
ที่มา..n3k.in.th

3 ขั้นตอนเพิ่มความฟิตให้กับการออกกำลังกาย


วันนี้จึงมีวิธีการเพิ่มความฟิตหรือความแข็งแรงให้กลับร่างกายอย่างปลอดภัยมาฝากกัน
ข้อที่ 1 เพิ่มวัน
สำหรับผู้ที่เริ่มออกกำลังกายควรเพิ่มวันออกกำลังกายก่อน เพราะโดยปกติองค์การอนามัยโลก แนะนำให้ออกกำลังกายแบบแอโรบิคอย่างน้อยอาทิตย์ละ 5 วัน ฉะนั้นการเพิ่มวันในออกกำลังกายให้มากขึ้นจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย เพราะร่างกายได้พักและกลับมาออกกำลังกายใหม่ ถ้าเราเดินเร็ววันละ 20 นาที ทางเลือกที่จะเพิ่มความเก่งของเราต่อไป ก็คือจะเพิ่มเวลาเดินหรือลองเพิ่มความเร็วในการเดินหรือลองวิ่งดู แต่ถ้าจะให้ปลอดภัย แนะนำให้ “เพิ่มทีละ 10-20% โดยใช้โปรแกรมเดิมสัก 1-2 อาทิตย์แล้วค่อยประเมินตนเองเพื่อปรับโปรแกรมการออกกำลังกายใหม่”
ข้อที่ 2 เพิ่มเวลา
การเพิ่มเวลาในการออกกำลังกาย ก็คือ ให้ออกกำลังกายเหมือนเดิมแต่พยายามทำให้นานขึ้น เช่น ปกติวิ่งบนลู่ได้วันละ 20 นาที ถ้าอยากเพิ่มเวลา ก็เพิ่มครั้งละ 2-4 นาที
ข้อที่ 3 เพิ่มความหนัก และความเร็ว
การเพิ่มความหนักในการออกกำลังกาย ก็คือการเพิ่มความเร็วในการเดิน วิ่ง หรือ เพิ่มน้ำหนักที่เรายก ส่วนนี้ไม่ควรเป็นทางเลือกแรกๆในการเพิ่มของผู้เริ่มออกกำลังกาย แต่เป็นสิ่งที่ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำหรือผู้ที่ออกกำลังกายแล้วไม่ได้ ผลสักทีควรจะลองพัฒนาตนเองดู เช่น วิ่งอยู่ที่ความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ลองวิ่งความเร็วที่ 11 กิโลเมตรต่อชั่วโมงดู หรือ ยกน้ำหนักที่ 10 กิโลกรัม ก็ลองเพิ่มเป็นยก 11-12 กิโลกรัมดู
รู้วิธีกันแล้วก็ขอให้ออกกำลังกายอย่างได้ผลและปลอดภัย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงกันทุกคนนะคะ
ปล…ไม่เเนะนำให้เพิ่ม2ข้อพร้อมกัน
ที่มา..lovefitt.com

วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

เราควรปอกเปลือกแอ็ปเปิ้ลไหมครับเวลากิน

ที่เข้าใจว่าที่บริเวณเปลือกผลไม้จะมีสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคนมาก เราชอบกินแอ็ปเปิล ยิ่งกัดกินทั้งเปลือกยิ่งชอบ แต่แอปเปิล ส้ม เดี๋ยวนี้เค้าเคลือบแว็กซ์ ให้มันเงางามใช่ไหมครับ เรามีวิธีดูว่ายี่ห้อไหนเคลือบหรือไม่เคลือบแว็กซ์อย่างไร แล้วเราควรปอกเปลือกแอ็ปเปิ้ลไหมครับเวลากิน แวกซ์นี้ล้างออกไหมครับ

ไม่ควรปลอกเปลือกออกครับ เพราะเปลือกมันนั่นแหละประโยชน์เพียบ
- มีไฟเบอร์สูง ประมาณ 75 % ของไฟเบอร์ในแอปเปิ้ล จะอยู่ที่เปลือก
- เปลือกมีสาร Antioxidants พวก polyphenols สูง ช่วยจับกับอนุมูลอิสระ
- เปลือกมีฤทธิ์ prebiotic สูง ช่วยส่งเสริมแบคทีเรียดี ( Normal flora) ในลำไส้
- ช่วยลดโอกาสการเป็นมะเร็งบางอย่าง เช่น มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับ ในสัตว์ทดลอง และลดโอกาสเกิดโรคหัวใจขาดเลือด , stroke, COPD  ได้
- มีวิตามิน A, C, K,  Niacin สูง และมีธาตุเหล็ก และ trace elements สูง

ผมเคยอ่านมาและสรุปว่า ควรกินทั้งเปลือก ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำฉีดทำความสะอาดแล้วล้าง หรือไม่ก็ใช้พวกมะนาวหรือส้มอื่นล้างแวกซ์ออก หรือไม่ก็หาแอปเปิลที่เขาใช้สารผสมที่เป็นธรรมชาติ(ไม่เป็นเคมี) spray สารเคทีที่ฉีดอย่างไรก็เข้าในเนื้อแอปเปิลอยู่แล้ว
ผมไม่กังวลเรื่องแวกซ์มากมาย

การดูแลคนผ่าตัดใส้ติ่ง

แฟนพึ่งผ่าตัดใส้ติ่ง ตอนนี้อยู่ในระยะพักฟื้น
ตอนนี้มีอาการท้องอืด(นิดหน่อย) ขับถ่ายได้
ข้อมูลในการดูแล อาหารการกิน และการแก้ไขอาการท้องอืดครับ

การผ่าตัดไส้ติ่ง(ไม่แตก)ทั่วไป จะฟื้นตัวเร็วมาก พยายามให้แฟนลุกจากเตียงไปห้องน้ำเอง เดินไป-มาบ่อยๆเท่าที่จะทำได้ อาหารก็กินอะไรก็กินได้ตามต้องการ ถ้ากินได้ดีก็ถอดน้ำเกลือได้ ส่วนอาการท้องอืดก็จะหายไปถ้าทำตามที่บอก ส่วนแผลก็ต้องล้างทำความสะอาดทุกวัน
     โดยทั่วไปหลังผ่าตัดก็นอนพักอีกประมาณ 1 - 2 คืน ก็น่าจะกลับบ้านได้แล้ว ยกเว้นมีภาวะแทรกซ้อน นับจากนี้ไปกว่าจะฟื้นตัวเต็มที่ก็ประมาณ 4 - 6 สัปดาห์ ดังนั้นระหว่างนี้ห้ามออกกำลังกายที่ใช้แรงเบ่งมาก และห้ามยกของหนัก

 

ทานข้าวต้ม หรือโจ๊ก งดอาหารย่อยยาก
อย่าหัวเราะ เพราะจะเจ็บแผลมาก

เดินเยอะๆค่ะ ถ้าเจ็บแผลก็กินยาแก้ปวด แต่ต้องเดิน
กินผลไม้ทำให้ถ่ายสะดวกจะได้ไม่ต้องเบ่งตอนเช้า

ผมเคยผ่าตัดครับ หลังผ่าตัด 1 อาทิตย์ เพื่อนเอามือมาโดนตรงนั้นพอดี อีกอาทิตย์ต่อมา แผลอักเสพ เริ่มโป่งพองขึ้นตกใจว่าจะไปหาหมอตอนเช้า แต่ตื่นขึ้นมาเลือดเต็มเตียง แผลที่เป็นโป่ง ๆ นั้นได้แตกไปแล้ว ผมสังเกตเห็นอะไรดำ ๆ ที่แผลเลยดึงออกมาได้ประมาณ 5 mm แล้วไม่กล้าดึงต่อ เลยไปหาหมอ หมอบอกแผลอักเสพ ไหมไม่ละลายดึงออกใหม่หมด เย็บแผลใหม่หมด เจ็บกว่าเดิมอีก กลายเป็นตะขาบไปแล้ว ยังไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากไหม หรือว่าเพื่อนกันแน่

เดินเยอะๆ ขยับตัวบ่อยๆ ครับ เจ็บหน่อยแต่ก็ต้องฝืนเดี๋ยวพังพืดจะเกาะครับ
ของผมไส้ติ่งแตกครับ มันจะมวนๆ ท้องแบบนั้นแหละครับ
ท้องเหมือนมีลม ป่องๆ อึดอัด แต่ก็ทานปกตินะครับ ช่วงนั้นอยากทานแต่ของย่อยง่าย 55+(คิดไปเอง)
พวกโจ๊ก ข้าวต้ม ประมาณนี้

pageviews