ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

4.ความสําคัญของการทานอาหารเช้าและการขับถ่าย.


หลายๆคนอาจจะเคยทราบบ้างแล้วว่า การทานอาหารเช้านั้นมีความสําคัญกับร่างกายมาก อาหารเช้าเป็นแหล่งพลังงานสําคัญในการที่จะนําสารอาหารไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจําวันนอกจากนี้ การทานอาหารเช้าเป็นการป้องกันโรคสมองเสื่อมหรือสมองฝ่อได้ดี.       


                         
      เวลาประมาณ05.00-07.00 เป็นเวลาสําคัญของอาหารเช้าและช่วงเวลาของการขับถ่ายตามปกติ เมื่อร่างกายของคนเราหลับในช่วงเวลากลางดึก ร่างกายจะเก็บกากอาหารเพื่อรอการขับถ่ายในช่วงเวลาเช้าประมาณ 05.00-07.00 และรอร้บอาหารมื้อเช้าเพื่อนําไปเป็นพลังงานในกิจกรรมต่างๆต่อไป.แต่ถ้าหาก เราไม่ทานอาหารเช้า กระบวนการต่างๆ ที่ร่างกายเคยทํามาจะกลับกัน กล่าวคือเมื่อร่างกายไม่มีสารอาหารที่จะนําไปใช้ในระบบ ร่างกายของคนเราก็จะนําของเสียกลับไปใช้ใช้ใหม่ ซึ่งของเสียที่รอการกําจัดเหล่า เป็นของเสียในรูปแบบกรด ของเหลวที่เป็นแก๊ส ซึ่งถ้าร่างกายนํากลับไปใช้ ของเสียต่างๆก็จะเข้าสู่กระแสเลือดกลายเป็นเลือดที่เจือปนด้วยสารพิษ และของเน่าเสีย และทําให้เกิดกลิ่นปากและกลิ่นตัวโดยที่เราไม่รู้ตัว         

   เราอาจไม่รู้สึกว่ามีกลิ่นตัวจนเพื่อนบางคนทักจึงจะรู้ตัว และของเสียเหล่านี้จะถูกข้บออกทางผิวหนังแทน. ผลเสียของการไม่รับประทาน อาหารมื้อเช้า นอกจากนี้ยังมีผลกระทบอื่นๆ ตามมาเป็นขบวนเลยครับ เช่น
-ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นในการเสริมสร้างพลังงานและซ่อมแซมสิ่งที่สึกหรอ
- เลือดไม่สะอาด ทำให้อวัยวะต่างๆไม่แข็งแรง
สมองไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ ทำให้ไอคิวต่ำ เฉื่อย ขาดความว่องไว ความจำไม่ดี ขาดความขกระตือรือร้น
- ถ้าไม่ได้รับประทานอาหารเช้าเป็นเวลานาน กระเพาะจะไม่แข็งแรง การขับถ่ายไม่ดี ตัวเหลว กล้ามเนื้อขเหลว ผิวเหี่ยวและคล้ำ แก่เร็ว ภูมิต้านทานลด ปวดหัว ปวดเข่า
-ความจำเสื่อม เป็นอัลไซเมอร์ 
หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ สามารถทานอาหารรองท้องที่มีประโยชน์แทนได้ครับ เช่น โยเกิร์ตผสมน้าผึ้งตามด้วยนมสักกล่อง แค่นี้ก็ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารในระดับนึง แต่ถ้าจะให้ดีควรทานอาหารเช้าที่หลากหลายเน้นที่คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ตามด้วยผัก ผลไม้ อาจจะเป็นกล้วยหอม สักลูก หรือ สัปปะรด กินในระดับทีพอเหมาะ ก็จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่สมดุลได้ครับ 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

pageviews