
เวลาประมาณ05.00-07.00 เป็นเวลาสําคัญของอาหารเช้าและช่วงเวลาของการขับถ่ายตามปกติ
เมื่อร่างกายของคนเราหลับในช่วงเวลากลางดึก ร่างกายจะเก็บกากอาหารเพื่อรอการขับถ่ายในช่วงเวลาเช้าประมาณ
05.00-07.00 และรอร้บอาหารมื้อเช้าเพื่อนําไปเป็นพลังงานในกิจกรรมต่างๆต่อไป.แต่ถ้าหาก
เราไม่ทานอาหารเช้า กระบวนการต่างๆ ที่ร่างกายเคยทํามาจะกลับกัน กล่าวคือเมื่อร่างกายไม่มีสารอาหารที่จะนําไปใช้ในระบบ
ร่างกายของคนเราก็จะนําของเสียกลับไปใช้ใช้ใหม่ ซึ่งของเสียที่รอการกําจัดเหล่า
เป็นของเสียในรูปแบบกรด ของเหลวที่เป็นแก๊ส ซึ่งถ้าร่างกายนํากลับไปใช้ ของเสียต่างๆก็จะเข้าสู่กระแสเลือดกลายเป็นเลือดที่เจือปนด้วยสารพิษ
และของเน่าเสีย และทําให้เกิดกลิ่นปากและกลิ่นตัวโดยที่เราไม่รู้ตัว
เราอาจไม่รู้สึกว่ามีกลิ่นตัวจนเพื่อนบางคนทักจึงจะรู้ตัว
และของเสียเหล่านี้จะถูกข้บออกทางผิวหนังแทน. ผลเสียของการไม่รับประทาน
อาหารมื้อเช้า นอกจากนี้ยังมีผลกระทบอื่นๆ
ตามมาเป็นขบวนเลยครับ เช่น
-ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นในการเสริมสร้างพลังงานและซ่อมแซมสิ่งที่สึกหรอ
- เลือดไม่สะอาด ทำให้อวัยวะต่างๆไม่แข็งแรง
สมองไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ ทำให้ไอคิวต่ำ เฉื่อย ขาดความว่องไว ความจำไม่ดี ขาดความขกระตือรือร้น
- ถ้าไม่ได้รับประทานอาหารเช้าเป็นเวลานาน กระเพาะจะไม่แข็งแรง การขับถ่ายไม่ดี ตัวเหลว กล้ามเนื้อขเหลว ผิวเหี่ยวและคล้ำ แก่เร็ว ภูมิต้านทานลด ปวดหัว ปวดเข่า
-ความจำเสื่อม เป็นอัลไซเมอร์
-ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นในการเสริมสร้างพลังงานและซ่อมแซมสิ่งที่สึกหรอ
- เลือดไม่สะอาด ทำให้อวัยวะต่างๆไม่แข็งแรง
สมองไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ ทำให้ไอคิวต่ำ เฉื่อย ขาดความว่องไว ความจำไม่ดี ขาดความขกระตือรือร้น
- ถ้าไม่ได้รับประทานอาหารเช้าเป็นเวลานาน กระเพาะจะไม่แข็งแรง การขับถ่ายไม่ดี ตัวเหลว กล้ามเนื้อขเหลว ผิวเหี่ยวและคล้ำ แก่เร็ว ภูมิต้านทานลด ปวดหัว ปวดเข่า
-ความจำเสื่อม เป็นอัลไซเมอร์
หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
สามารถทานอาหารรองท้องที่มีประโยชน์แทนได้ครับ เช่น โยเกิร์ตผสมน้าผึ้งตามด้วยนมสักกล่อง
แค่นี้ก็ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารในระดับนึง
แต่ถ้าจะให้ดีควรทานอาหารเช้าที่หลากหลายเน้นที่คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ตามด้วยผัก
ผลไม้ อาจจะเป็นกล้วยหอม สักลูก หรือ สัปปะรด กินในระดับทีพอเหมาะ
ก็จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่สมดุลได้ครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น